แม้จะมีนัดชิงฯ ฟุตบอล คาราบาว คัพ ที่ แมนฯ ซิตี้ เจอกับ แอสตัน วิลล่า ในคืนวันอาทิตย์
แต่เกมพรีเมียร์ลีก ก็ยังเตะตามกันปกติ ซึ่งคู่ไหนมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย
“นอริช-เลสเตอร์”
นอริช ซิตี้ กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นและต้องการชัยชนะอย่างมากเพื่อโอกาสถีบตัวเองพ้นโซนสีแดง ฝั่ง เลสเตอร์ เพิ่งพ่ายต่อ แมนฯ ซิตี้ ทำให้ตอนนี้ต้องทำอันดับรักษาอันดับ 3 ไว้ไม่ให้ เชลซี แซง
เกมนี้เพิ่งจะเป็นครั้งที่ 4 ของ นอริช เท่านั้นที่จะได้ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก ในคืนวันศุกร์ โดยก่อนหน้านี้ 3 เกมพวกเขาแพ้ทั้งหมดต่อ สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และวัตฟอร์ด โดยมีผลต่างสกอร์ 2-11
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1994 เลสเตอร์ ไม่เคยแพ้ นอริช ในเกมพรีเมียร์ลีกเลย โดยชนะได้ 3 ครั้ง และเสมอ 1 หน จากการเจอกัน 4 ครั้ง
ฟอร์มของ เจมี่ วาร์ดี้ ในช่วงนี้ไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อเขาไม่สามารถทะลวงตาข่ายได้เลยใน 6 เกมหลังสุด
“บอร์นมัธ-เชลซี”
หลังชนะ 2 เกมติดก่อนหน้า จนถึงตอนนี้ บอร์นมัธ แพ้แล้ว 2 เกมติดต่อกัน โดยมีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนนเท่านั้น
การเจอกัน 9 ครั้งก่อนหน้าของคู่นี้ ไม่มีเกมไหนเลยที่จบลงด้วยผลเสมอ โดย บอร์นมัธ ชนะ 4 ครั้ง และ เชลซี ชนะ 5 หน
นอกจากนี้ แต่ละประตูที่เกิดขึ้นใน 12 ลูกหลังสุดของทั้งคู่ เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังทั้งสิ้น โดยที่ 2 จาก 11 ประตูที่ บอร์นมัธ ยิง เชลซี ได้ เกิดขึ้นช่วงครึ่งแรก ซึ่ง เดอะ เชอร์รี่ส์ แพ้ทั้งสองครั้ง
มีแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงทีมเดียวที่ชนะและเก็บคลีนชีทในเกมที่เจอกับ เชลซี ได้มากกว่า บอร์นมัธ หากนับตั้งแต่ที่ บอร์นมัธ เลื่อนชั้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก โดยที่ บอร์นมัธ เอาชนะ เชลซี ได้ทั้งหมด 4 ครั้ง และเก็บคลีนชีทได้ 4 หน ขณะที่ฤดูกาลนี้ บอร์นมัธ ก็กำลังตั้งเป้าที่จะชนะ เชลซี แบบไปกลับให้ได้เป็นครั้งแรก
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ มีส่วนร่วมกับประตูใส่ บอร์นมัธ 5 ลูกจากการลงเจอทีมนี้ 3 นัด โดยยิงได้ 1 และแอสซิสต์อีก 4
“วัตฟอร์ด-ลิเวอร์พูล”
8 นัดหลังสุด วัตฟอร์ด ไม่สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ลีกได้เลย (เสมอ 1 แพ้ 7) โดยแพ้ 4 เกมหลังสุด ชนิดที่พวกเขาเสียไปถึง 15 ประตู และยิงประตูสใส่ หงส์แดง ไม่ได้เลย
24 ประตูของ “แตนอาละวาด” ในซีซั่นนี้ เกิดขึ้นจากลูกยิงในกรอบเขตโทษ ซึ่งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก มีแค่ มิดเดิลสโบรส์ (35) และ แมนฯ ซิตี้ (33) เท่านั้นที่มีสถิติแบบนี้ 100% โดยเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1995/96
ภายใต้ยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ลิเวอร์พูล ยิงประตูใส่ วัตฟอร์ด ได้มากที่สุดเหนือกว่าทีมอื่นๆ โดยยิงได้ถึง 27 ประตูจาก 9 แมตช์ที่เจอกัน
ซาดิโอ มาเน่ มีประตูหรือแอสซิสต์เสมอใน 6 เกมที่เจอ วัตฟอร์ด ภายใต้สีเสื้อหงส์แดง โดยยิงได้ 4 และ แอสซิสต์ อีก 4 ครั้ง
ด้าน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงใส่ วัตฟอร์ด ถึง 8 ประตู จาก 5 เกม โดยเขาเหมาสองประตูในเกมล่าสุดที่เจอกันที่ แอนฟิลด์ ในชัยชนะของ หงส์แดง ที่มีเหนือ แตนอาละวาด 2-0
“เอฟเวอร์ตัน-แมนฯ ยูไนเต็ด”
อ่านต่อได้ที่ glowingglory.com
สมัครเว็บไซต์ บาคาร่า ที่ดีที่สุด
มีครบทั้ง บอล หวย มวย หรือว่า ม้าแข่ง ไก่ชน
ราคาดีที่สุด แนะนำเพื่อนได้โบนัส ต้องที่ ufabet369.net เท่านั้น
บริการดี จริงใจ ซื่อสัตย์ ฝาก-ถอน ไวภายใน 30 วินาที